วันจันทร์, 06 พฤษภาคม 2567
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซด์ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลพบุรี

วิสัยทัศน์ ผบ.ตร.

กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย

 

กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
 
 
การขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (2550) 
กรณีเพื่อให้ความอุปการะ หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย 
(สามี-ภรรยา, บิดา-มารดา หรือ บุตรอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ยังไม่สมรส)
เอกสารประกอบการขอมีถิ่นที่อยู่
  1. แบบคำขอเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (แบบ ตม.9)
  2. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาล (ใบรับรองสุขภาพ อายุไม่เกิน 3 เดือน นับจนถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  3. หนังสือรับรองว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมจากประเทศที่ตนมีภูมิลำเนา โดยผ่านการรับรองจากกงสุลไทยในประเทศนั้น ๆ หรือ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย (เฉพาะผู้ยื่นคำขอที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป)
  4. สำเนาเอกสารรับรองการเป็นครอบครัว ได้แก่ ใบสำคัญการสมรส ,ทะเบียนสมรส (ค.ร.2) ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน, ใบสูติบัตร บุตร, เอกสารการจดทะเบียนรับรองบุตร เป็นต้น ซึ่งหากเป็นเอกสารต่างประเทศ ให้ผ่านการรับรองเอกสารเช่นเดียวกับ ข้อ 3. และหากเป็นการจดทะเบียนในประเทศไทย ให้หน่วยงานนั้น ๆ รับรองสำเนา
  5. สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีสัญชาติไทย พร้อมทั้งนำต้นฉบับไปแสดงด้วย สำเนาเอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษาของผู้ยื่นคำขอ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย แปลเป็นภาษาไทยและผ่านการับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือหนังสือรับรองว่าผู้ยื่นคำขอกำลังศึกษาอยู่แล้วแต่กรณี
  6. ใบสมัครงาน และหลักฐานการอนุมัติรับเข้าทำงาน ประทับตราบริษัทฯ และผู้มีอำนาจลงนามรับรอง
  7. หนังสือรับรองประวัติการทำงานจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และสำเนาใบอนุญาตทำงานทุกเล่ม และทุกหน้า
  8. หนังสือรับรองเงินเดือนจากกิจการที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ซึ่งลงนามโดยผู้มีอำนาจลงนามในกิจการนั้น (ตามแบบที่กำหนด) , ย้อนหลัง 2 ปี (ดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือรับรอง) และ สัญญาการจ้าง
  9. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90) ของผู้ยื่นคำขอ พร้อมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร จำนวน 3 ปีก่อนหน้าปีที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
  10. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1) ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร ตั้งแต่ต้นปี จนถึง เดือนก่อนหน้าที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
  11. หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลบริษัทที่ผู้ให้ความอุปการะทำงานอยู่ (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์ และมีอายุ ไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  12. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลที่ผู้ให้ความอุปการะเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วย (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์และ มีอายุไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  13. สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น ภ.พ.01, ภ.พ.09 และ ภ.พ. 20
  14. สำเนางบการเงิน(งบดุล งบกำไรขาดทุน) พร้อมแบบ ภ.ง.ด.50 และใบเสร็จรับเงินของปีก่อนที่ยื่นคำขอ ซึ่งรับรองสำเนาโดย เจ้าหน้าที่ของสรรพากร (กรณีเป็นส่วนราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจ ไม่ต้องนำมาแสดง)
  15. นิติบุคคลใด ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ให้สำเนาบัตรส่งเสริม หรือ เอกสารที่แสดงว่าได้รับการส่งเสริมด้วย
  16. หนังสือรับรองจากธนาคาร พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากประจำของผู้ให้ความอุปการะ (ถ้ามี)
  17. แผนที่แสดงสถานที่พำนักอาศัย และ สถานที่ทำงาน
  18. สำเนาหนังสือเดินทางที่แสดงว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทุกเล่ม และทุกหน้า)
  19. แบบประวัติบุคคล และแฟ้มระบุรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถ พิเศษ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศไทย สถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย พร้อมรูปถ่ายประกอบ(ให้ใช้แฟ้มโชว์เอกสารขนาดเอ 4)
  20. กรณีการยื่นอุปการะบุตรคนสัญชาติไทย ต้องนำหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลของรัฐบาล แสดงความสัมพันธ์ ระหว่าง บิดา มารดา และบุตร ด้วย
  21. กรณีการยื่นอุปการะคู่สมรสคนสัญชาติไทย หากจดทะเบียนสมรสไม่ถึง 5 ปี และมีบุตรด้วยกัน ต้องนำหลักฐานการตรวจ ดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลของรัฐบาล แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บิดา มารดา และบุตร ด้วย
  22. กรณีคู่สมรสคนสัญชาติไทยมีบิดามารดา หรือคนใดคนหนึ่งเป็นคนต่างด้าว ให้แนบสำเนาใบสูติบัตรของคู่สมรสที่ผ่านการ รับรองจากเขต/อำเภอ พร้อมทั้งแนบสำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ,ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ทะเบียนบ้าน ของบิดามารดา ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ด้วย หากรายใดเสียชีวิตให้แนบสำเนาใบมรณะบัตรด้วย
  23. กรณีคู่สมรสไม่สามารถมีบุตรได้ให้แนบใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลรัฐบาล พร้อมระบุสาเหตุการไม่สามารถมีบุตรได้
  24. เอกสารอื่น ๆ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเรียกเพิ่มเติม
หมายเหตุ

- เอกสารใดเป็นเอกสารส่วนตัว ให้คนต่างด้าวรับรองสำเนาเอง
- เอกสารใดเป็นเอกสารของนิติบุคคล ให้รับรองโดยผู้มีอำนาจลงนามในนิติบุคคลนั้น พร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท 
- เอกสารใดเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องแปลเป็นภาษาไทย และรับรองคำแปลโดยระบุรายละเอียด 
ของผู้แปลที่สามารถตรวจสอบได้ และผ่านการรับรองการแปลจากกระทรวงการต่างประเทศ

กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว

 

กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว
 
 
การขอมีถิ่นที่อยู่ (2550) 
กรณีเพื่อให้ความอุปการะหรืออยู่ในความอุปการะของ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว 
(สามี-ภรรยา, บิดา-มารดา หรือ บุตรอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ยังไม่สมรส)
เอกสารประกอบการขอมีถิ่นที่อยู่
  1. แบบคำขอเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (แบบ ตม.9)
  2. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาล (ใบรับรองสุขภาพ อายุไม่เกิน 3 เดือน นับจนถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  3. หนังสือรับรองว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมจากประเทศที่ตนมีภูมิลำเนา โดยผ่านการรับรองจากกงสุลไทยในประเทศนั้น ๆ หรือ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย (เฉพาะผู้ยื่นคำขอที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป)
  4. สำเนาเอกสารรับรองการเป็นครอบครัว ได้แก่ ใบสำคัญการสมรสหรือทะเบียนสมรส ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน, ใบสูติบัตรบุตร, สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น ซึ่งหากเป็นเอกสารต่างประเทศให้ผ่านการรับรองเอกสารเช่นเดียวกับ ข้อ 3. และหากเป็นการ จดทะเบียนในประเทศไทย ให้หน่วยงานนั้น ๆ รับรองสำเนา
  5. สำเนาใบสำคัญถิ่นที่อยู่, ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว, หนังสือเดินทาง และสำเนาทะเบียนบ้านในประเทศไทยทุกหน้าที่มี รายการ ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว พร้อมทั้งนำต้นฉบับไปแสดงด้วย
  6. สำเนาเอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษาของผู้ยื่นคำขอ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย แปลเป็นภาษาไทยและผ่านการับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ
  7. ใบสมัครงาน และหลักฐานการอนุมัติรับเข้าทำงาน ประทับตราบริษัทฯ และผู้มีอำนาจลงนามรับรอง
  8. หนังสือรับรองประวัติการทำงานจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และสำเนาใบอนุญาตทำงาน ทุกเล่ม และทุกหน้า
  9. หนังสือรับรองเงินเดือนจากกิจการที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ซึ่งลงนามโดยผู้มีอำนาจลงนามในกิจการนั้น (ตามแบบที่กำหนด) , ย้อนหลัง 2 ปี (ดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือรับรอง) และ สัญญาการจ้าง
  10. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90) ของผู้ยื่นคำขอ พร้อมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร จำนวน 3 ปีก่อนหน้าปีที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
  11. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1) ของผู้ให้ความอุปการะ ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนก่อนหน้าที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่ผู้ให้ความอุปการะทำงานอยู่ (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์ และ มีอายุไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  12. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่ผู้ให้ความอุปการะทำงานอยู่ จำนวน 3 ปีก่อนหน้าที่ยื่นคำขอ
  13. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น และหากผู้ยื่นคำขอถือหุ้นตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ให้นำบัญชีผู้ถือหุ้นย้อนหลัง 3 ปี มาแสดงด้วย (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์ และมีอายุไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  14. สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01, ภ.พ.09 และ ภ.พ.20) หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ
  15. สำเนางบการเงิน(งบดุล งบกำไรขาดทุน) พร้อมแบบ ภ.ง.ด.50 และใบเสร็จรับเงินของปีก่อนที่ยื่นคำขอ ซึ่งรับรองสำเนาโดย เจ้าหน้าที่ของสรรพากร (กรณีเป็นส่วนราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจ ไม่ต้องนำมาแสดง)
  16. นิติบุคคลใด ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ให้สำเนาบัตรส่งเสริม หรือเอกสารที่แสดงว่าได้รับการส่งเสริมด้วย
  17. หนังสือรับรองจากธนาคาร พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากประจำของผู้ให้ความอุปการะ (ถ้ามี)
  18. แผนที่แสดงสถานที่พำนักอาศัย และ สถานที่ทำงาน
  19. สำเนาหนังสือเดินทางที่แสดงว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทุกเล่ม และทุกหน้า)
  20. แบบประวัติบุคคล และแฟ้มระบุรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถ พิเศษ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศไทย สถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย พร้อมรูปถ่ายประกอบ (ให้ใช้แฟ้มโชว์เอกสาร ขนาด เอ 4)
  21. กรณีบุตรมาอยู่ในความอุปการะของบิดาหรือมารดา หรือบุตรมาให้ความอุปการะบิดาหรือมารดา ต้องแนบหลักฐานการตรวจ ดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลของรัฐบาล แสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุตรกับบิดาหรือมารดาด้วย แล้วแต่กรณี (เช่น บุตรขอมาอยู่ในความอุปการะของบิดาให้ตรวจดีเอ็นเอ ระหว่างบุตรกับบิดา หากบุตรขอมาอยู่ในความอุปการะของมารดา ให้ตรวจดีเอ็นเอระหว่าง บุตรกับมารดา เป็นต้น)
  22. เอกสารอื่น ๆ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเรียกเพิ่มเติม
หมายเหตุ

- เอกสารใดเป็นเอกสารส่วนตัว ให้คนต่างด้าวรับรองสำเนาเอง
- เอกสารใดเป็นเอกสารของนิติบุคคล ให้รับรองโดยผู้มีอำนาจลงนามในนิติบุคคลนั้น พร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท 
- เอกสารใดเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องแปลเป็นภาษาไทย และรับรองคำแปลโดยระบุรายละเอียด 
ของผู้แปลที่สามารถตรวจสอบได้ และผ่านการรับรองการแปลจากกระทรวงการต่างประเทศ

การขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร

 

กรณีขอเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ
กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว
กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
กรณีขอเข้ามาเพื่อทำงาน
กรณีขอเข้ามาเพื่อการลงทุน
รายละเอียดการขอมีถิ่นที่อยู่

กรณีขอเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

กรณีขอเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ
 
 
การขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร(2550) กรณีขอเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ
เอกสารประกอบการขอมีถิ่นที่อยู่
  1. แบบคำขอเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (แบบ ตม.9)
  2. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาล (ใบรับรองสุขภาพ อายุไม่เกิน 3 เดือน นับจนถึงวันที่ยื่นคำขอ)
  3. หนังสือรับรองว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมจากประเทศที่ตนมีภูมิลำเนา โดยผ่านการรับรองจากกงสุลไทยในประเทศนั้น ๆ หรือ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย
  4. สำเนาเอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษาของผู้ยื่นคำขอ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี หรือ เทียบเท่าขึ้นไป ผ่านการรับรองจากกงสุล ของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย แปลเป็นภาษาไทยและผ่านการับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ
  5. ใบสมัครงาน และหลักฐานการอนุมัติรับเข้าทำงาน รับรองโดยหน่วยงาน นั้น ๆ
  6. หนังสือรับรองการผ่านงาน หรือ ประสบการณ์การทำงาน
  7. หนังสือรับรองประวัติการทำงานจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และสำเนาใบอนุญาตทำงาน ทุกเล่ม และทุกหน้า (ถ้ามี)
  8. หนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ โดยให้ระบุรายละเอียดการทำงาน รายได้ต่อเดือน
  9. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90) ของผู้ยื่นคำขอ พร้อมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร จำนวน 3 ปีจนถึงปีที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
  10. สำเนาเอกสารการรับเงินรายได้ต่อเดือนจากหน่วยงานที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนก่อนหน้าที่ยื่นคำขอ
  11. หนังสือสนับสนุนจากส่วนราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง
  12. หนังสือรับรองจากธนาคาร พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากประจำของผู้ยื่นคำขอ (ถ้ามี)
  13. แผนที่แสดงสถานที่พำนักอาศัย และ สถานที่ทำงาน
  14. สำเนาหนังสือเดินทางที่แสดงว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทุกเล่ม และทุกหน้า)
  15. แบบประวัติบุคคล และแฟ้มระบุรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถพิเศษ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศไทย สถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย พร้อมรูปถ่ายประกอบ (ให้ใช้แฟ้มโชว์เอกสาร ขนาด เอ 4)
  16. เอกสารอื่น ๆ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเรียกเพิ่มเติม
หมายเหตุ

- เอกสารใดเป็นเอกสารส่วนตัว ให้คนต่างด้าวรับรองสำเนาเอง
- เอกสารใดเป็นเอกสารของนิติบุคคล ให้รับรองโดยผู้มีอำนาจลงนามในนิติบุคคลนั้น พร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท 
- เอกสารใดเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องแปลเป็นภาษาไทย และรับรองคำแปลโดยระบุรายละเอียด 
ของผู้แปลที่สามารถตรวจสอบได้ และผ่านการรับรองการแปลจากกระทรวงการต่างประเทศ

ค่าธรรมเนียม

อัตราค่าธรรมเนียม(ปรับปรุงใหม่)
ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (ตม.15)

กรณีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรก่อน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ 
กำหนด ฉบับละ 19,000 บาท

ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (ตม.16)
  • กรณีเพื่อการลงทุนรวมทั้งการลงทุนเป็นกรณีพิเศษ ฉบับละ 191,400 บาท
  • กรณีเพื่อการทำงานหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ ฉบับละ 191,400 บาท
  • กรณีสมรสกับบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทย ฉบับละ 95,700 บาท
  • กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อให้การอุปการะบุตรผู้มีสัญชาติไทย ฉบับละ 95,700 บาท
  • กรณีเป็นคู่สมรสของผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว ฉบับละ 95,700 บาท
  • กรณีเป็นบุตรของผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้วหรือเป็นบุตรของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
    • ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉบับละ 95,700 บาท
    • บรรลุนิติภาวะแล้ว ฉบับละ 191,400 บาท
  • กรณีขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม(นอกโควต้า) ฉบับละ 95,700.- บาท
ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (ตม.17)

กรณีชำรุด หรือสูญหาย หรือหมดหน้าประทับตรา ฉบับละ 1,900.- บาท

การทำหลักฐานแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก(Endosement)

ฉบับละ 1,900.- บาท

การตรวจลงตราประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนดจำนวนคนต่างด้าว
ซึ่งจะเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาราจักรเป็นรายปี 

(NON-QUOTA IMMIGRANT VISA)
    • ใช้ครั้งเดียว ฉบับละ 1,900 บาท
    • ใช้ได้หลายครั้งภายในหนึ่งปี 3,800 บาท
การตรวจลงตรา
  • ประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร(Transit Visa) ครั้งละ 800 บาท
  • ประเภทนักท่องเที่ยว ครั้งละ 1000 บาท
  • ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
    • ใช้ได้ครั้งเดียว 2,000 บาท
    • ใช้ได้หลายครั้งภายใน 1 ปี 5,000 บาท
    • ใช้ได้หลายครั้งถายใน 3 ปีสำหรับบุคคลซึ่งมีหนังสือเดิทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ของสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประกอบธุรกิจ
  • ประเภทคนเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร(Immigrant Visa) ครั้งละ 1,900 บาท
  • ประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะเข้ามามีถ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี (การตรวจลงตราคนต่างด้าวมีถิ่นที่อยู่ Non-Quota Immigrant Visa)
    • ใช้ครั้งเดียว 1,900 บาท
    • ใช้ได้หลายครั้งในหนึ่งปี 3,800 บาท
อุทธรณ์ตามมาตรา 22

(กรณีตรวจพบว่ามีลักษณะเป็นบุคคลต้องห้าม) คนละ 1,900 บาท

คำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป

ครั้งละ 1,900 บาท

อุทธรณ์ตามมาตรา 36

(กรณีถูกเพิกถอนการอนุญาต) คนละ 1,900 บาท

คำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit)
  • คนหนึ่งใช้ไดครั้งเดียว(Single Entry) 1,000 บาท
  • คนหนึ่งใช้ได้หลยครั้งภายในระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่(Multiple Entry) 3,800 บาท
คำขออนุญาตเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร

คนละ 7,600 บาท

คำขอเพื่อพิสูจน์สัญชาติ

คนละ 800 บาท

หมายเหตุ :

กฏกระทรวงฉบับที่ 27 (พ.ศ.2546)
ออกตามในประราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 
ประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฏษฏีกา เล่ม 120 ตอน 59 ก.
วันที่ 27 มิถุนายน 2546
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2546

วิสัยทัศน์ สำนักงานตรวจแห่งชาติ