 กรณีเพื่อให้หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย |
|
|
การขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (2550) กรณีเพื่อให้ความอุปการะ หรืออยู่ในความอุปการะของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย (สามี-ภรรยา, บิดา-มารดา หรือ บุตรอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ยังไม่สมรส) |
เอกสารประกอบการขอมีถิ่นที่อยู่ |
- แบบคำขอเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (แบบ ตม.9)
- ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาล (ใบรับรองสุขภาพ อายุไม่เกิน 3 เดือน นับจนถึงวันที่ยื่นคำขอ)
- หนังสือรับรองว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมจากประเทศที่ตนมีภูมิลำเนา โดยผ่านการรับรองจากกงสุลไทยในประเทศนั้น ๆ หรือ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย (เฉพาะผู้ยื่นคำขอที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป)
- สำเนาเอกสารรับรองการเป็นครอบครัว ได้แก่ ใบสำคัญการสมรส ,ทะเบียนสมรส (ค.ร.2) ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน, ใบสูติบัตร บุตร, เอกสารการจดทะเบียนรับรองบุตร เป็นต้น ซึ่งหากเป็นเอกสารต่างประเทศ ให้ผ่านการรับรองเอกสารเช่นเดียวกับ ข้อ 3. และหากเป็นการจดทะเบียนในประเทศไทย ให้หน่วยงานนั้น ๆ รับรองสำเนา
- สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีสัญชาติไทย พร้อมทั้งนำต้นฉบับไปแสดงด้วย สำเนาเอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษาของผู้ยื่นคำขอ ผ่านการรับรองจากกงสุลของประเทศนั้น ๆ ในประเทศไทย แปลเป็นภาษาไทยและผ่านการับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือหนังสือรับรองว่าผู้ยื่นคำขอกำลังศึกษาอยู่แล้วแต่กรณี
- ใบสมัครงาน และหลักฐานการอนุมัติรับเข้าทำงาน ประทับตราบริษัทฯ และผู้มีอำนาจลงนามรับรอง
- หนังสือรับรองประวัติการทำงานจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และสำเนาใบอนุญาตทำงานทุกเล่ม และทุกหน้า
- หนังสือรับรองเงินเดือนจากกิจการที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ซึ่งลงนามโดยผู้มีอำนาจลงนามในกิจการนั้น (ตามแบบที่กำหนด) , ย้อนหลัง 2 ปี (ดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือรับรอง) และ สัญญาการจ้าง
- สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90) ของผู้ยื่นคำขอ พร้อมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร จำนวน 3 ปีก่อนหน้าปีที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
- สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1) ซึ่งรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่ของสรรพากร ตั้งแต่ต้นปี จนถึง เดือนก่อนหน้าที่ยื่นคำขอ พร้อมใบเสร็จรับเงิน
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลบริษัทที่ผู้ให้ความอุปการะทำงานอยู่ (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์ และมีอายุ ไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลที่ผู้ให้ความอุปการะเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วย (ฉบับคัดสำเนาจากกระทรวงพาณิชย์และ มีอายุไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ)
- สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น ภ.พ.01, ภ.พ.09 และ ภ.พ. 20
- สำเนางบการเงิน(งบดุล งบกำไรขาดทุน) พร้อมแบบ ภ.ง.ด.50 และใบเสร็จรับเงินของปีก่อนที่ยื่นคำขอ ซึ่งรับรองสำเนาโดย เจ้าหน้าที่ของสรรพากร (กรณีเป็นส่วนราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจ ไม่ต้องนำมาแสดง)
- นิติบุคคลใด ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ให้สำเนาบัตรส่งเสริม หรือ เอกสารที่แสดงว่าได้รับการส่งเสริมด้วย
- หนังสือรับรองจากธนาคาร พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากประจำของผู้ให้ความอุปการะ (ถ้ามี)
- แผนที่แสดงสถานที่พำนักอาศัย และ สถานที่ทำงาน
- สำเนาหนังสือเดินทางที่แสดงว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทุกเล่ม และทุกหน้า)
- แบบประวัติบุคคล และแฟ้มระบุรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถ พิเศษ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศไทย สถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย พร้อมรูปถ่ายประกอบ(ให้ใช้แฟ้มโชว์เอกสารขนาดเอ 4)
- กรณีการยื่นอุปการะบุตรคนสัญชาติไทย ต้องนำหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลของรัฐบาล แสดงความสัมพันธ์ ระหว่าง บิดา มารดา และบุตร ด้วย
- กรณีการยื่นอุปการะคู่สมรสคนสัญชาติไทย หากจดทะเบียนสมรสไม่ถึง 5 ปี และมีบุตรด้วยกัน ต้องนำหลักฐานการตรวจ ดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลของรัฐบาล แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บิดา มารดา และบุตร ด้วย
- กรณีคู่สมรสคนสัญชาติไทยมีบิดามารดา หรือคนใดคนหนึ่งเป็นคนต่างด้าว ให้แนบสำเนาใบสูติบัตรของคู่สมรสที่ผ่านการ รับรองจากเขต/อำเภอ พร้อมทั้งแนบสำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ,ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ทะเบียนบ้าน ของบิดามารดา ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ด้วย หากรายใดเสียชีวิตให้แนบสำเนาใบมรณะบัตรด้วย
- กรณีคู่สมรสไม่สามารถมีบุตรได้ให้แนบใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลรัฐบาล พร้อมระบุสาเหตุการไม่สามารถมีบุตรได้
- เอกสารอื่น ๆ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเรียกเพิ่มเติม
|
หมายเหตุ |
- เอกสารใดเป็นเอกสารส่วนตัว ให้คนต่างด้าวรับรองสำเนาเอง - เอกสารใดเป็นเอกสารของนิติบุคคล ให้รับรองโดยผู้มีอำนาจลงนามในนิติบุคคลนั้น พร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท - เอกสารใดเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องแปลเป็นภาษาไทย และรับรองคำแปลโดยระบุรายละเอียด ของผู้แปลที่สามารถตรวจสอบได้ และผ่านการรับรองการแปลจากกระทรวงการต่างประเทศ
|
|
|
|